สิวสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ สิวอักเสบ และไม่อักเสบ ถ้าคุณมีสิวที่มีลักษณะเป็นสีแดง และบวมแสดงว่าคุณเป็นสิวอักเสบ โดยสิวอักเสบเอง ก็ยังแตกแขนงแยกย่อยออกเป็นอีกหลายประเภท ถ้าสิวอักเสบรุกลาม คุณยังสามารถมีสิวอักเสบที่รุนแรงมากขึ้นได้ ซึ่งในจุดนี้คุณจะมีอาการปวดมาก เช่น สิวก้อน สิวเรื้อรังและสิวอักเสบหนอง เป็นต้น วันนี้เราจะมาหาทางรักษาสิวอักเสบกัน
สิวอักเสบสามารถเกิดได้ที่ไหนในร่างกายได้บ้าง
คุณสามารถพบสิวอักเสบได้เกือบทุกพื้นผิวในร่างกาย หากแต่เป็นเรื่องธรรมดามากเมื่อมันปรากฏบนใบหน้า แต่ก็ยังพบได้ในบริเวณหลัง หน้าอก ไหล่ หรือคุณอาจเจอสิวอักเสบที่ก้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติเว้นเสียแต่ว่าสิวเหล่านี้ส่อแววถึงความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทุกคนสามารถเกิดสิวอักเสบได้ด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่เฉพาะวัยรุ่นเท่านั้น แต่สิวอักเสบยังเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผู้ใหญ่เช่นเดียวกัน แม้แต่เด็กทารกก็สามารถเกิดสิวอักเสบได้
การรักษาสิวอักเสบ มีการอักเสบมีตั้งแต่ระดับอ่อน ไปจนถึงระดับที่มีความรุนแรง โดยเริ่มต้นจากการอุดตันในรูขุมขนเล็ก ๆ ซึ่งเรียกว่าไมโครคอมโด การอุดตันเหล่านี้มีขนาดเล็กกว่าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ในที่สุดไม่นานก็จะเปลี่ยนเป็นสิวอักเสบที่คุณเห็นบนผิวของคุณ อย่างไรก็ตามน้ำมันที่ผลิตออกมาก็ยังคงไหลซึมเข้าสู่รูขุมขน และสร้างแหล่งเพาะพันธ์ที่ดีสำหรับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว จนกระทั่งทำให้เกิดแรงกดบนรูขุมขน และสารนี้ก็จะแพร่กระจายเข้าสู่ผิวหนัง ผิวหนังจึงพยายามป้องกันตัวเองส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา จึงเกิดการต่อสู้ ปรากฏความแดง ความบวม และระคายเคืองเกิดขึ้น กลายเป็นสิวอักเสบ เมื่อสิวอักเสบเจริญเติบโตต่อไป คุณจะได้รับรูปแบบที่มีความรุนแรงมากขึ้น เช่น ก้อน และซีสต์ สิวเหล่านี้เกิดขึ้นลึกลงไปในชั้นผิวหนัง และมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดแผลเป็น เพราะฉะนั้นนี้คือ เหตุผลว่าทำไมหลาย ๆ คนจึงรีบหาทางรักษาสิวอักเสบ
สาเหตุของการเกิดสิว และปัจจัยเสี่ยง
คุณไม่จำเป็นต้องทนกับสิวอักเสบ วันนี้เรามีทางเลือกการรักษาสิวอักเสบที่ดีสำหรับคุณมานำเสนอ โดยมีหนึ่งทางเลือก ที่จะทำให้ผิวของคุณสะอาด ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย และทำให้ผิวของคุณดูดีขึ้น ถ้าสิวอักเสบของคุณไม่รุนแรง คุณอาจเลือกผลลัพธ์ที่ดีด้วยผลิตภัณฑ์รักษาสิวอักเสบ ที่วางขายตามเคาน์เตอร์ สำหรับตัวยาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด จะต้องประกอบด้วยกรดซาลิไซลิก หรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ แนะนำให้คุณทาตัวยาเหล่านี้ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ พร้อมเช็คว่าสิวของคุณตอบสนองอย่างไร ถ้าดีขึ้นก็ให้คุณใช้ต่อไป แต่ถ้าแย่ลงให้คุณรีบมองหาตัวเลือกอื่นที่จะนำมาใช้ในการรักษาต่อไป จะได้ไม่เป็นการเสียเวลา
ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการที่ตื่นมาด้วยความสดชื่น และพบว่าสิวก็ผุดขึ้นมาทักทายคุณในตอนเช้า สิวอักเสบนั้นเป็นสิ่งที่น่าหงุดหงิดมากที่สุด ในขณะที่วงจรชีวิตของมันก็มีอายุยาวนานกว่าสิวธรรมดา แต่ด้วยการกำหนดเป้าหมาย พร้อมทั้งรีบวางแนวทางในการรักษาสิวอักเสบ ก็จะทำสิวห่างไกลจากใบหน้าของคุณได้ การรักษาสิวอักเสบ จัดเป็นแผลที่มีขนาดใหญ่ คุณจะพบกับต่อมไขมันบวมแดง การผลิตไขมันมากเกินไป จนกระทั่งนำไปสู่การแตกของหนอง
การรักษาสิวอักเสบด้วยกรด
กรดไฮดรอกซี – กรดอัลฟาไฮดรอกซี AHA และกรดเบต้า – ไฮดรอกซี BHA มักจะเป็นตัวยามาตรฐานแรก ๆ ของการป้องกันการอักเสบของสิว สารประกอบเหล่านี้มีอยู่ในครีม เจล และน้ำยาล้างหน้า มาพร้อมคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ กรด BHA ช่วยรักษาสิวอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากแต่อย่างไรก็ตาม มันสามารถทำให้ผิวของคุณแห้ง และระคายเคือง รวมทั้งทำให้รู้สึกแสบร้อนได้ โดยกรดซาลิไซลิคมักรวมอยู่ในกรด BHA ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบแบคทีเรียได้อย่างอ่อนโยน และโดยทั่วไปแล้วจะเป็นวิธีรักษาสิวอักเสบที่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่า ทำให้ผิวของผิวปลอดจากสิ่งสกปรก ช่วยลดปริมาณการอุดตันของรูขุมขน คุณอาจเลือกผลิตภัณฑ์รักษาสิวอักเสบที่มีกรดเหล่านี้ผสมอยู่
รักษาสิวอักเสบด้วยวิตามิน A
การรักษาสิวอักเสบด้วยวิตามิน A เช่น เรตินอยด์ สามารถหยุดการอักเสบของสิวได้ทั้งทางตรง และทางอ้อม การรักษาสิวอักเสบด้วยวิธีนี้ จะช่วยทำให้รูขุมขนสะอาด ไม่อุดตัน เข้าไปละลายให้ไขมัน และแบคทีเรียไหลออกมาได้อย่างอิสรเสรี พร้อมทั้งช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียจากการเจริญเติบโต และช่วยยับยั้งการตอบสนองการอักเสบ ของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งมักนำมาใช้ในการรักษาร่วมกับ benzoyl peroxide หรือสูตรต้านจุลชีพ แต่อย่างไรก็ตาม คุณจึงควรมีความระมัดระวังในการใช้ เพราะมีฤทธิ์กัดกร่อนผิวในระดับหนึ่ง รักษาสิวอักเสบด้วยวิตามิน A จัดเป็นยาปฏิชีวนะเฉพาะที่ ซึ่งสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และลดการอักเสบได้ดี ถึงแม้ว่าจะทำให้เกิดการคัน, การกัดผิว และความแห้งกร้าน
รักษาสิวอักเสบ ต้องบำรุงผิวหน้าไปด้วย
โดยขั้นตอนการรักษารักษาสิวอักเสบ ตามที่เราได้กล่าวมาในข้างต้นนี้ สามารถใช้เพื่อจัดการ และป้องกันการพัฒนาสิวอักเสบได้ดี หากแต่อย่างไรก็ตามสิวอักเสบของคุณ สามารถสร้างความเจ็บปวดได้ในขณะที่มีการอักเสบมาก เพราะฉะนั้นเพื่อลดความเจ็บปวด การใช้ยาทาผิวที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์เพียงเล็กน้อย กับทารอบสิวอักเสบทุกวัน จะช่วยลดการอักเสบได้ดี อีกทั้งยังทำให้คุณสามารถสังเกตเห็นหัวสิวที่ผุดขึ้นมาได้อีกด้วย และเมื่อหัวเหลืองโผล่ขึ้นมาแล้ว ให้คุณกดออกได้ จะได้ช่วยกำจัดสิวออกอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยบรรเทาปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนะนำให้คุณเลือกใช้ครีมรักษาสิวอักเสบที่มีส่วนผสมของ กรดซาลิไซลิค หรือเรตินอยด์ เพื่อช่วยในการต้านการอักเสบ แต่อย่างก็ตามถ้าผลิตภัณฑ์ BHA และเรตินอยด์ ก่อให้เกิดระคายเคือง หรือทำให้ผิวของคุณแห้ง ให้คุณทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ด้วยผลิตภัณฑ์ต่อต้านการอักเสบที่อ่อนโยน อันประกอบด้วย สังกะสี ว่านหางจระเข้ ชาเขียว เพื่อลดการอักเสบ รวมทั้งพยายามหลีกเลี่ยงการเกา หรือสัมผัสสิวของคุณ ถึงแม้ว่าจะคันก็ตาม เพราะจะทำให้การอักเสบแย่ลง ทำให้การรักษาสิวอักเสบช้าลงไปด้วย
การรักษาสิวอักเสบด้วยยาปฏิชีวนะ
การใช้ยาปฏิชีวนะ จะนำมาใช้ควบคู่ไปกับสิวอักเสบปานกลาง ถึงสิวที่มีความรุนแรง ที่ส่อแววว่าเป็นอาการเรื้อรัง การรักษาธรรมดาอาจไม่ได้ผลอีกต่อไป รวมทั้งเหมาะสำหรับการรักษาสิวที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของร่างกาย โดยคุณหมอจะเป็นผู้สั่งยาเท่านั้น คุณไม่สามารถซื้อมากินเองได้ และปริมาณการกินยาก็แตกต่างกันไป ตามแต่ล่ะปัญหาของแต่ล่ะคน
การรักษาสิวอักเสบแบบใด ที่ต้องพึ่งพาคุณหมอ
ถ้าการอักเสบของสิวมีความเจ็บปวด หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาต่อตัวยาทาใด ๆ เลย การรักษาสิวอักเสบของคุณอาจพัฒนาเพิ่มขึ้นไปอีกก้าวหนึ่ง คุณอาจต้องไปพบแพทย์ โดยนอกเหนือจากปัจจัยเรื่องความสกปรกทั้งหลายแล้ว คุณอาจมีฮอร์โมนที่มากเกินไปในผิว ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนความเครียด ความไม่สมดุลของฮอร์โมน หรือการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดอาจทำให้ผิวของคุณเป็นสิวได้ดียิ่งขึ้น จนกระทั่งคุณได้ประสบปัญหาสิวเรื้อรัง ที่จำเป็นต้องพึ่งการฉีดคอร์ติโซน ซึ่งเป็นวิธีที่เร็วที่สุด ที่จะทำให้สิวหายไป
การรักษาสิวอักเสบมีหลายแนวทาง และการเกิดของสิวอักเสบก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องค้นหาว่าแท้จริงแล้ว สิวอักเสบของคุณนั้นเกิดขึ้นมาจากปัจจัยอันใดกันแน่ จะได้หาทางลดความเสี่ยงนั้นลง และการรักษาสิวอักเสบจะได้เห็นผลดียิ่งขึ้น การรักษาสิวอักเสบของบางคนสามารถหายได้ด้วยตัวเอง ด้วยความอดทน ทายา และปรับพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับบางคนจำเป็นต้องไปพบคุณหมอ เพราะอาจเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น ฮอร์โมน ซึ่งการรักษาสิวอักเสบเช่นนี้ ต้องรับประทานยาควบคู่ไปด้วยนั่นเอง